นั่งรถ JR สีเขียวอ่อนเจ้าประจำมาลงสถานีถัดมา ชิบูย่า
ที่นี่ซากุระก็บานแล้ว บานที่ลานฮาจิโกะเลย
ส่วนฮาจิโกะก็อยู่ในโหมดแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ ชิบูย่า
เริ่มแรกก็เดินไป Hikarie
ห้างใหม่ในย่านนี้ ตึกกระจกสีเทาอมเขียวเข้มสวยดี
หน้าตาดูทันสมัย
ในตึกนี้ชั้น 1-7 ก็เป็นห้างธรรมดาทั่วไป ที่รวมสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นขาย
แต่ชั้น 8 จะเรียกว่า creative space8
เป็นห้องแสดง OTOP ทั่วประเทศของญี่ปุ่น แยกตามจังหวัด
และด้านนอกมีร้านอาหารที่มาจากทุกจังหวัดเหมือนกัน
โดนเราสามารถสั่งซื้อตามชื่อจังหวัด เช่น ขออาหารไซตามะชุดนึง
แต่ไม่ได้ทานเพราะอิ่มราเม็งอยู่
ที่ห้องแสดงโอทอป แยกเป็นจังหวัดละโต๊ะ
สินค้าทุกอันเนี้ยบมากน่าซื้อมาก
คนยืนอ่านรายละเอียดกันแบบปราณีตตั้งใจ
บางอันก็ดังขายข้ามประเทศมาที่เมืองไทย เหลือเชื่อว่ามาจากโอทอป
เป็นโอทอปที่มีพลังสูงมาก เอาจริงมาก ไม่ได้เน้นแค่ตลาด local
รูปด้านล่างนี้เป็นเลือดหมู แช่ในน้ำเกลือ
มีแบบก้อน แต่แบบเส้นนี่สยองใช้ได้
ผนังคลุมไว้ด้วยม่านสีครีมอมทอง ดูหรูมาก มีที่นั่งพักแก้เมื่อย
ถ้าเราอ่านญี่ปุ่นออก คงใช้เวลานานกว่านี้
นี่ไงเหล้า Iichiko ชื่อดัง
โฆษณาก็สุดน่ารัก มีขายในไทยด้วย มาจากโอทอปนี่เอง
เดินได้สักแว้บ เข้าห้องน้ำอะไรเรียบร้อย ก็ได้เวลาตะลุยชิบูย่า
เอาของที่ซื้อจากฮาราจูกุฝากใส่ locker ไว้ก่อน ได้เดินตัวปลิวสะดวกสบาย
ก็เดินขึ้นเนินลงเนิน วนเวียนไปเรื่อย
ยอดได้รองเท้าใหม่สีสวยน่ารัก
ไม่ได้ถ่ายรูปเยอะ เดินช้อปอย่างเดียว
เดินจนเริ่มเย็นย่ำ
พาเพื่อนๆข้ามไปโซนกินดื่ม และ Hotel
ถนนแคบๆ ไฟร้านสวยดี นักท่องเที่ยวเยอะ
เดินมาเพื่อพามาร้านแปลกๆแห่งนี้
ชื่อร้านกาแฟคลาสสิค
มีมาตั้งแต่ปี 1926
ร้านนี้แนะนำในหนังสือ pen complete tokyo guide 2012
เข้าไปก็พบบรรยากาศแบบนี้
เหมือนเป็น hall ขนาดเล็กที่ทำด้วยไม้สีมะฮอกกานีเงางาม
ที่นั่งเป็นเวิ้งบุ๋มลงไป
โต๊ะเก้าอี้ไม้เก่า หันหน้าไปทางเดียวกันทั้งหมด สำหรับโต๊ะสองคน
แต่โต๊ะสี่คนก็มีหันหลังบ้าง มีดอกกุหลาบสดดอกโตตกแต่ง
ที่นั่งหันหน้าไปยังผนังสูงประมาณตึกสองชั้น
เป็นผนังไม้ ที่ฝังลำโพง HiFi ไว้ด้านใน
ด้านล่างของผนังคือแผ่นเสียงคลาสสิกที่เยอะมากๆๆๆๆๆ
และแท่นสำหรับเปิดแผ่นเสียง
เสียงเพลงคลาสสิคนุ่มนวล อบอวลไปทั่วร้าน ผสมเสียงกรอกแกรบตามสไตล์แผ่นเสียงเก่า
รู้สึกสงบ ทั้งๆที่เพิ่งผ่านย่านชิบูย่าอันวุ่นวายมา
คนที่มานั่ง สั่งกาแฟดื่มคนละแก้ว แล้วหลับตาฟังเพลงคลาสสิคเงียบๆ และตั้งใจ
ผู้ใหญ่หลายคนมานั่งพัก
บางคนใช้เป็นสถานที่เขียนหนังสือ
ถ้าเรามานั่งคิดงานที่นี่คงมีสมาธิน่าดู
เพลงที่เปิดให้อารมณ์สงบ สมาธิ มากกว่าจะง่วง
แถมบางช่วงรู้สึกยิ่งใหญ่ฮึกเหิม
พนักงานหนุ่มเอา list นักประพันธ์ที่จะเปิดในแต่ละสัปดาห์มาให้
พวกเราสั่งกาแฟนั่งสงบฟังเพลงกันซักพัก
ยอดกับบอสอึ้งไป โดนมูดเพลงคลาสสิคกล่อมจนเครื่องเย็น หายคึก
เหมือนได้ shot brake ไปอีกโลกนึง
แล้วก็ออกมาเดินเล่นกันต่อ
ไปเจอร้านขายของเกี่ยวกับอวกาศ มีขนมอวกาศ
ได้ถ่ายรูปเล่นนิดหน่อย ตลกดี
เดินเล่นไปมาอีกรอบก็มาจบที่ร้านข้างๆกาแฟคลาสสิกนั่นเอง
ชื่อร้าน BYG Rock
บรรยากาศร็อคดี นั่งสบาย แผ่นเสียง ซีดี โปสเตอร์ ลายเซ็นวงระดับโลกเต็มไปหมด
โครงสร้างตึกเป็นแบบเก่าอยู่แล้วด้วย เลยได้ฟีลดิบๆดี
ตามผนังมือลายมือเขียนเต็มไปหมด
ที่นี่มีซีดีขายด้วย
สั่งสาเกมาทานคนละแก้ว แต่ได้มาเป็นแก้วยักษ์ รสชาติดี
ดื่มหมดแก้วก็เมา ยิ้มเผล่กันทั้งสามคน
ต้องคอยตั้งสติ เดี๋ยวเดินกลับไม่ถูก
เนี่ยรูปสุดท้ายของวัน
จำได้ว่ายืนขำที่พัดลมไม่เข้าพวก
จบวันนี้ไปแบบสนุกสนานดี
No comments:
Post a Comment