Sunday, October 9, 2011

art + advertising - art = advertising

เวลาคิดงานโฆษณาให้เป็นอาร์ตมากๆ โดยที่ไม่ได้แสดงออกถึง message ที่ต้องการแบบชัดเจนนัก
มักโดนคอมเม้นต์ว่า "เซอร์"

คำว่าเซอร์นี้ก็เป็นตราบาปชนิดหนึ่ง ที่ใกล้เคียงกับการโดนด่า
ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะแง้มมาในงานโฆษณา

สาเหตุสำคัญอาจอยู่ที่ มันใช้เวลาในการอธิบายให้ทีมสร้างสรรค์ ทีมดูแลลูกค้า และลูกค้าเอง เข้าใจได้ยากและเห็นภาพได้ช้าเกินไป

งานที่มีลักษณะผสมกันระหว่าง commercial และ art จึงเห็นได้ไม่บ่อยในบ้านเรา
หรือแทบไม่เห็นเลย นี่ต้องไม่นับรวมพวกโมเดลม็อคอัพอันใหญ่ยักษ์ตามจุดต่างๆ
เพราะเหล่านั้นเรียกว่าขยะสายตามากกว่า หาความงามไม่เจอ แถมทำลายทัศนียภาพ

งาน commercial ที่มีความเป็นศิลปะในความทรงจำนั้น ถ้าติดตาคงเป็นงาน Maison Hermes ของประเทศญี่ปุ่นชิ้นนี้ ที่ออกมาเมื่อเดือนมกราคม 2010
เจ้าของผลงาน  http://www.tokujin.com/






งานล่าสุดอีกชิ้นที่บังเอิญไปเจอมา
คืองาน window display อีกเหมือนกัน
เจ้าของสินค้าคือร้านหนังสือที่ชื่อว่า Numabook ในญี่ปุ่น ชื่องาน Numabookcat 
ซื้อหนังสือ 12 เล่มในราคาแค่ 4200 เยน
มาดูงานกัน






บริษัทที่สร้างสรรค์ก็เป็นคนเดียวกันแต่ใช้ชื่อว่า NAM 
NAM  เป็นการร่วมมือกันของกราฟฟิกดีไซน์เนอร์ และช่างภาพ ทำงานอาร์ต มีงานนิทรรศการมาแล้วหลายครั้ง รับจ้างออกแบบและทำปกดีวีดีด้วย 
งาน numabookcat นี้เป็นตอนต่อมาของ bookface ซึ่งมีลักษณะงานใกล้กัน



เพียงแต่ว่า numabookcat นั้นมีการขายหนังสือด้วยผ่าน  display หรือเป็นการซื้อหนังสือจากเจ้าเหมียว
ตกลงกันทาง online ไม่มีหน้าร้าน

โดยเซ็ทหนังสือ 12 เล่ม 4200 เยนนั้น ผู้ซื้อไม่สามารถจัดเซ็ทได้เอง แต่เจ้าเหมียวจะเป็นผู้จัดให้
เพียงผู้ซื้อตอบคำถามง่ายๆว่า คุณเป็นคนแบบไหน
เจ๋งสิ้นดี


เนื้อหาบางส่วนจาก   http://n-a-m.org/blog/2011/09/news-numabookcat.html


No comments:

Post a Comment