ตื่นเช้าตรู่ แปรงฟันเพื่อมากินข้าวเช้า
ที่นี่กำหนดเวลากินไม่เกิน 9 โมง ง่วงสุดๆ
นุ่งยูกาตะออกมากินโดยไม่ทันได้อาบน้ำ
มาถึงห้องอาหารก็เจอบรรยากาศอบอุ่น
มีคุณป้ามากมายคอยต้อยรับ เสิร์พชาเขียว และคีบปลาปิ้งให้คนละตัว
ส่วนอาหารอื่นๆต้องเดินตักเอาเอง
มีข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป
สลัด ปลาป่น ไข่ปลา บ๊วยดองไข่เจียว ไข่ลวกเย็นๆ
ผงซากุระ ผักดอง ให้เลือกทาน
หน้าตาอาหารเช้าน่ารักแบบนี้
กินเสร็จหน้ายังง่วงอยู่เลย
ไอ้บอสไอ้ยอดหน้าตุ่ยมาก
ส่วนเราตาย่นทีเดียว 555
เดินออกจากโรงแรม อากาศเย็นสบาย
เดินมาตึกโรงแรมใหญ่ที่อยู่ด้านล่างเชิงเขากัน
|
ตึกโรงแรมเล็กหน้าตาวินเทจแบบนี้ |
|
ผ่านหน้าต่างบานใหญ่ระหว่างทาง
เขาให้ความสำคัญกับวิวดีนะ
อย่างหน้าต่างนี้ บานใหญ่มาก เดินมาต้องชะงักชมวิวเลยทีเดียว |
เป้าหมายคือเดินมาออนเซ็นเท้าจ้า
อุ่นสบายคลายปวดเท้าดีจริงๆ
ปุ่มๆหินสีขาวไว้เหยียบนวดฝ่าเท้า
ไออุ่นลอยฟุ้ง อากาศเย็นสบาย
วิวไม่ต้องพูดถึง สุดยอด
ให้นั่งทั้งวันยังทำได้ ถ้าเท้าไม่เปื่อยซะก่อน
|
วิวล่ะ |
แช่เท้ากันได้สักพัก
ก็ได้เวลานั่งรถ shuttle bus ออกมาจากโรงแรมเพื่อไปเที่ยวรอบๆฮาโกเน่
|
นอกหน้าต่างรถ ซากุระ และลำธาร และซากุระ และลำธาร |
วันนี้ตั้งต้นเที่ยวกันที่นี่
opened air museum Hakone
เค้าว่างานอาร์ทที่นี่ต้องชมพร้อมวิวสวยงามด้านหลัง
ขอดูซิ จะเจ๋งแค่ไหน
|
ทางเข้า |
|
เย่ มาถึงแย้วว |
|
ลอดอุโมงค์มิติเวลา |
แม่เจ้า พื้นที่กว้างอลังการ งาน art กระจายเต็มไปหมด
ทางเดินขึ้นๆลงๆเนินเขา เดินได้ออกกำลังกาย
ครอบครัวมาเที่ยวกันดูน่ารัก
|
เดินเล่นเพลินตา สบายใจ |
ที่นี่เดินสนุก วิวสวย งานดูง่าย ผู้คนมาเป็นครอบครัว
เตรียมข้าวกล่องมาให้พร้อม เค้ามีที่ให้นั่งพักกินข้าวกลางแจ้ง ชมงานศิลปะกลางแจ้ง เพลินสุดๆ
บริเวณร้านขายของฝาก มีที่ให้นั่งเอาเท้าแช่น้ำร้อนออนเซ็นแก้เมื่อย สมกับเป็นเมืองออนเซ็น
ถ้ารู้จักใครจะมาฮาโกเน่ จะบอกให้มาที่นี่ชัวร์
เสร็จละ ไปต่อโพสหน้า